泰国“皇家黄金骗局”(“Royal Gold Scam”) 2023.6.23……【媒体报道】与金三角“皇家黄金骗局”有关的中国骗子被捕。
据警方技术犯罪抑制部门 (TCSD) 称,诈骗者兜售他们在老挝金三角著名的Kings Romans 赌场的“皇家黄金”投资,并骗取受害者近 5 亿泰铢(1,420 万美元)。
TCSD 负责人 Athip Pongsiwapai 少将表示,32 岁的中国公民 Teng June周四在曼谷 Bang Khunthian 地区被捕,他被指控为黑帮老大。
从涉嫌团伙头目及其同伙手中缴获了三辆豪车、500多万泰铢现金、30件金饰、奢侈手表、名牌包、电脑、手机、SIM卡、银行账簿、黄金证书和其他贵重物品。
此前,皇家财产局向警方投诉称,一群犯罪分子假冒其名义建立了一个名为“皇家黄金”的网站,以欺骗人们投资黄金。
据Athip少将称,今年1月至5月期间,许多人成为受害者,损失总计约5亿泰铢。TCSD 侦探发现,滕先生是这家位于 Kings Romans 赌场的企业的负责人。
这名中国公民负责运营该运营中心,并将责任分配给其他骗子,例如设立银行账户以接收受害者的转账以及雇用他人注册银行账户。一些骗子的任务是洗钱。诈骗者使用漂亮女士的照片作为个人资料照片。然后,他们寻找潜在的受害者,并说服他们使用皇家黄金网站购买黄金,该网站的设计看起来像一个股票交易网站,包含价格和交易量数据。为了获得可信度,该团伙声称在其网站投资黄金与皇家财产局有联系。
尽管嫌疑团伙头目及其同伙被捕,但警方相信其他五名诈骗者仍然在逃。其中包括该团伙高管层的三名中国男性——45岁的邱德武、36岁的邱德聪和22岁的张志宏——以及两名姓名尚未公布的泰国人。

Chinese Scammer Linked to “Royal Gold Scam” in Golden Triangle Arrested
Published on June 23, 2023

The suspected leader of a Chinese scam call center gang has been apprehended, along with ten others wanted for duping individuals into investing in gold by claiming a connection with the Crown Property Bureau.

According to the police Technology Crime Suppression Division (TCSD), the scammers peddled their “Royal Gold” investments from the renowned Kings Romans casino in Laos’ Golden Triangle and bilked their victims out of almost 500 million baht (US$14.2million).

Teng June, 32, a Chinese national and accused gang boss, was apprehended in Bangkok’s Bang Khunthian area on Thursday, said Pol Maj Gen Athip Pongsiwapai, chief of the TCSD.

In recent days, nine Thai nationals and one stateless lady were captured in Chiang Rai and Chanthaburi provinces, he noted.

Three luxury cars, over 5 million baht in cash, 30 gold ornaments, luxury watches, brand-name bags, computers, mobile phones, SIM cards, bank account books, gold certificates, and other valuables were seized from the suspected gang boss and his associates.

All of the individuals were charged with fraud conspiracy, entering fraudulent information into a computer system, and money laundering. They are being held in police custody while legal action is taken.

Previously, the Crown Property Bureau filed a police complaint alleging that a group of criminals had exploited its name to construct a website called “Royal Gold” to encourage gold investments.

According to Pol Maj Gen Athip, many people were victims between January and May of this year, with damages totaling around 500 million baht. TCSD detectives discovered that Mr Teng was in charge of the enterprise, which was based in the compound of the Kings Romans casino.

Fake Royal Gold website

The Chinese national operated the operations centre and distributed responsibilities to other con artists, such as setting up bank accounts to receive money transfers from victims and employing others to register bank accounts. Some con artists were tasked with money laundering.

The scammers used photographs of attractive ladies as their profile photos, according to Pol Col Siriwat Deephor, the deputy TCSD commander.

They then sought potential victims and persuaded them to buy in gold using the Royal Gold website, which was designed to look like a stock trading site, complete with price and trading volume data. In order to gain credibility, the gang claimed its website invested in gold and included connections to the Crown Property Bureau.

During the early stages, investors received 10% returns. However, when the investors attempted to withdraw their funds, they were unable to do so. They were then asked to deposit additional cash to cover tax service fees. Members of the gang could no longer be contacted after receiving the money, according to Pol Col Siriwat.

Bank Accounts in Chiang Rai

Colonel of Police The gang utilised the money swindled from the victims to buy cryptocurrencies, according to Nethi Wongkularp, superintendent of TSCD Sub-division 2, who oversaw the arrest operation. They transferred the cryptocurrency to digital wallets that they had paid others to open in order to launder their illicit funds.

“According to the investigation, those hired to open bank accounts and digital wallets are mostly from Chiang Rai.” “They were hired for 3,000 to 4,000 baht per person,” he explained.

One of the scammers in charge of locating people to register bank accounts told police he was paid 10,000 baht per account. He claimed he had enormous gambling debts from Kings Romans and that the Chinese gang leader, who was among the 11 individuals arrested, pushed him to work for the fraud ring.

Despite the arrest of the suspected gang leader and his associates, police believe five other scammers are still at large. They include three Chinese males at the gang’s executive level — Qiu Dewu, 45, Qiu Decong, 36, and Zhang Zhihong, 22 — and two Thais whose names have not been released.


ข่าวออนไลน์7HD

ปอท.จับยกแก๊งจีนดำเปิดฐานปฏิบัติการในสามเหลี่ยมทองคำ หลอกลงทุน-คอลเซ็นเตอร์

วันที่ 22 มิ.ย. 2566

ปอท.จับยกแก๊งจีนดำ หลอกลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ ได้ตัวหัวหน้าระดับสั่งการจนถึงบัญชีม้า พบเปิดฐานปฏิบัติการในสามเหลี่ยมทองคำ เงินหมุนเวียน 3 พันล้าน ผู้ต้องหาสารภาพเป็นหนี้พนันในกาสิโน ถูกบังคับให้รวบรวมบัญชีม้า กระเป๋าเงินดิจิทัล โอนเหรียญคริปโท แลกเป็นเงินบาทส่งมอบให้หัวหน้าเครือข่าย ใครตุ๋นเหยื่อหลงเชื่อลงทุนได้ มีโบนัสเป็นทองคำ

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายหลอกลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ โดยเป็นการปูพรมตรวจค้น 4 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหาชาวจีนและชาวไทย ตั้งแต่ระดับหัวหน้าผู้ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ่อนกาสิโน “คิงส์โรมัน” ใน สปป.ลาว ลงไปจนถึงคนรวบรวมบัญชีม้า บัญชีเงินดิจิทัลเหรียญคริปโท และคนรับจ้างเปิดบัญชีม้า จับกุมผู้ต้องได้หาแล้ว 11 คน และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมอีก 5 คน เป็นคนสัญชาติจีน 3 คน และสัญชาติไทย 2 คน

สำหรับคดีนี้ ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากทางสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพได้นำชื่อสำนักทรัพย์สินฯ ไปแอบอ้างด้วยการเปิดเว็บไซต์หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนในหุ้นทองคำ โดยใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า Royal Gold  จากการตรวจสอบตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค.66 พบมีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 2,000 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท

จากการสืบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกลวงโดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย ตีสนิทด้วยการพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว ก่อนจะชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในหุ้นทองคำผ่านเว็บไซต์ Royal Gold ซึ่งเว็บไซต์ปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมา มีลักษณะคล้ายเว็บไซต์เทรดหุ้น มีกราฟแสดงมูลค่าของหุ้นตลอดเวลา นอกจากนี้มีการแอบอ้างว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ลงทุนในหุ้นทองคำที่เกี่ยวข้องกับสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ในช่วงแรก มิจฉาชีพจะชักชวนให้ผู้เสียหายนำเงินมาทดลองลงทุน โดยให้โอนเงินลงทุนไปยังบัญชีม้าที่เปิดเตรียมไว้ หลังจากลงทุนไปสักระยะเวลาหนึ่ง มิจฉาชีพจะคืนเงินต้น และให้ผลตอบแทน 10% ของเงินลงทุน จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวได้รับผลตอบแทนจริง อีกทั้งในเว็บไซต์ดังกล่าวมีการแสดงยอดเงินลงทุนและผลตอบแทนให้เห็นตรงตามกับจำนวนเงินที่ผู้เสียหายลงทุนไป จึงยิ่งทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ภายหลังเมื่อผู้เสียหายต้องการจะถอนเงินออกจากเว็บไซต์ มิจฉาชีพจะหลอกให้เสียค่าดำเนินการและเสียภาษี ทำให้ผู้เสียหายต้องโอนเงินเพิ่มตามจำนวนที่มิจฉาชีพแจ้งแล้ว จากนั้ยมิจฉาชีพจะบล็อกช่องทางการติดต่อ จนไม่สามารถติดต่อกับมิจฉาชีพได้อีก

จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปยังบัญชีม้าตามที่มิจฉาชีพกล่าวอ้างแล้ว เงินทั้งหมดจะถูกนำไปซื้อเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ในสกุล USDT จากพ่อค้าคนกลาง หลังจากนั้นจะมีการโอนเหรียญดิจิทัลดังกล่าวเข้าไปยังกระเป๋าวอลเล็ตม้า ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟอกเงินในรูปแบบเหรียญดิจิทัล โดยเป็นการยักย้ายถ่ายเทเหรียญคริปโตในเครือข่ายกระเป๋าเหรียญดิจิทัลที่มีมากกว่าร้อยกระเป๋า แต่บัญชีสุดท้ายเหรียญคริปโทษทั้งหมดถูกโอนไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของเครือข่ายชาวจีนที่รับหน้าที่ฟอกเงิน โดยการนำเหรียญดิจิทัลที่ได้มาจากการฉ้อโกงไปขายแลกกลับมาเป็นเงินบาทไทย ก่อนจะนำเงินที่ได้มาไปส่งมอบให้กับหัวหน้าเครือข่าย

และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มคนที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน ประมาณ 3-4 พันบาท โดยกลุ่มผู้จัดหาและว่าจ้างจะเตรียมโทรศัพท์พร้อมซิมการ์ดมาให้กลุ่มผู้รับจ้างทำการยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อเปิดบัญชีธนาคารพร้อมกับกระเป๋าแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล (Wallet) หลังจากนั้นจะรวบรวมบัญชีม้าพร้อมโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับกระเป๋าม้านำไปส่งให้กับนายทุนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่ สปป.ลาว

หนึ่งในผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จัดหาและรวบรวมบัญชีม้า ให้การยอมรับ ว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายทุนชาวจีน ให้รวบรวมบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้าของคนไทย และให้นำไปส่งมอบให้กับชาวจีนที่อยู่ในพื้นที่ของบ่อนกาสิโนคิงส์โรมัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการ โดยตนจะได้รับค่าจ้างประมาณ 10,000 บาท ต่อบัญชี ซึ่งสาเหตุที่ตนรับจ้างทำงานในลักษณะนี้ เนื่องจากตนเองมีหนี้สินที่เกิดจากการเล่นพนันในบ่อนกาสิโนคิงส์โรมัน และนายทุนชาวจีนดังกล่าวเป็นคนภายในบ่อนกาสิโน ตนจึงถูกบังคับให้จัดหาและรวบรวมบัญชีม้ามาให้เพื่อใช้หนี้การพนัน  

อีกทั้งจากการตรวจค้น ตำรวจสามารถตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์หรู 3 คัน เงินสดกว่า 5 ล้านบาท สร้อยคอทองคำ แหวน กว่า 30 รายการ นาฬิกาหรู และกระเป๋าแบรนเนมด์ สมุดบัญชีธนาคาร และใบรับประกันทองหลายรายการ

เมื่อตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ได้ตรวจยึดมา พบว่า มีกลุ่ม Telegram ซึ่งเป็นกลุ่ม Scammer จะมีการส่งภาพถ่าย หญิงสาวหน้าตาดี ภาพอาหารราคาแพง ภาพวาบหวิวของหญิงสาว และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อใช้ในการหลอกลวงเหยื่อให้ตกหลุมรัก บทสนทนาที่เตรียมไว้พูดคุยกับเหยื่อ และตารางสรุปยอดที่เหยื่อหลงเชื่อและสนใจเข้ามาลงทุน ไปจนถึงจำนวนเหยื่อที่เข้ามาลงทุนในเว็บไซต์

ผู้ต้องหา ให้การด้วยว่า ใบรับประกันทองที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดมา เป็นการซื้อทองคำ เพื่อนำไปมอบเป็นรางวัลโบนัสให้กับพนักงานที่สามารถหลอกลวงเหยื่อให้เข้ามาลงทุนในเว็บไซต์ได้


เช้านี้ที่หมอชิต

ทลายแก๊งจีนดำ ลวงลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ เงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้าน

วันที่ 23 มิ.ย. 2566

เช้านี้ที่หมอชิต – ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับผู้ต้องหาแก๊งจีนดำ ที่แอบอ้างสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หลอกคนไปลงทุนทำธุรกิจคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับผู้ต้องหาเครือข่ายหลอกลงทุน – คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งคดีนี้ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 15 หมายฯ และตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 ราย

ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน

โดยจับกุมได้ตั้งแต่ระดับหัวหน้า ที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีแหล่งปฏิบัติการอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงคนทำหน้าที่รวบรวมบัญชี และรับจ้างเปิดบัญชีม้า และยังมีผู้ต้องหาที่อยู่ในระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตามหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 ราย
จากการตรวจค้นในบ้านพัก ตำรวจได้ตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ เช่น รถยนต์หรู 3 คัน, เงินสดกว่า 5 ล้านบาท, สร้อย-แหวนทองคำกว่า 30 รายการ, สมุดบัญชีธนาคาร, คอมพิวเตอร์ และของใช้อีกหลายรายการ

คดีนี้สืบเนื่องจากช่วงต้นปี 2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพ ได้นำชื่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไปแอบอ้างด้วยการเปิดเว็บไซต์หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนในหุ้นทองคำ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อ นำเงินไปร่วมลงทุนกับกลุ่มมิจฉาชีพเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม 2566 มีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 2,000 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท

ตำรวจสืบสวนจนพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพมีพฤติกรรมหลอกลวงโดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย ตีสนิทด้วยการพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว ก่อนชักชวนไปร่วมลงทุนในหุ้นทองคำ ผ่านเว็บไซต์ Royal Gold เป็นเว็บไซต์ปลอม ลักษณะคล้ายเว็บไซต์เทรดหุ้น
โดยแอบอ้างว่าลงทุนในหุ้นทองคำที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยหลอกลงทุนช่วงแรก ก็จะให้ผลตอบแทนจนเหยื่อตายใจ เมื่อผลตอบแทนมากขึ้น ก็มีการเรียกเงินก้อนใหญ่จากเหยื่อ อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการในการถอนเงิน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินก้อนใหญ่ให้ ก็จะปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมดทันที โดยพบว่าผู้ต้องหาแก๊งนี้มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท

หนึ่งในผู้ต้องหาที่จัดหาและรวบรวมบัญชีม้า รับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายทุนชาวจีน ให้รวบรวมบัญชีม้าของคนไทย ได้รับค่าจ้างประมาณ 10,000 บาทต่อบัญชี สาเหตุที่รับจ้างทำงานแบบนี้ก็เพราะมีหนี้สินจากการเล่นพนัน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แจ้งเตือนภัยมายังประชาชนว่าควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนให้ถี่ถ้วนก่อนลงทุนทุกครั้ง เพราะมิจฉาชีพมักอ้างหน่วยงาน หรือ สถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ อย่าตัดสินใจลงทุนเพียงเพราะเห็นว่ารูปแบบเว็บไซต์นั้นดูน่าเชื่อถือ เพราะปัจจุบันมิจฉาชีพสามารถปลอมข้อมูลขึ้นมาได้ทั้งหมด


评论

发表回复

您的电子邮箱地址不会被公开。 必填项已用 * 标注